สวัสดีครับ หลวงพี่ช่วยด้วย กลับมาแล้วครับผม
ทุกวันเสาร์ อาทิตย์ 11โมง ครับผม
วันนี้ครับ เรามีการปรับเปลี่ยนนะครับ เนื่องจากสถานการณ์โควิดครับผม
เราจะให้ดารานักแสดงทั่วประเทศที่มีคำถาม
ส่งคำถามเข้ามาถามหลวงพี่ของเราครับผม
และวันนี้หลวงพี่ของเราอยู่แล้วครับ
นมัสการหลวงพี่สมพงษ์ หลวงพี่สมปอง และหลวงพี่นภันต์นะครับ
พระดูหนังดูละครได้ไหม?
ตั๊ก ศิริพร
นมัสการนะคะ หลวงพี่คะ อันนี้หนูมีข้อกังขา อยากจะถามค่ะ ไม่ได้ตั้งใจจะทะลึ่งอะไรเลยนะคะ หนูนะอยากรู้จริงๆ เลย ไม่ได้จะละลาบละล้วงเลย จริงๆ แล้วพระดูหนัง ดูละคร ดูทีวีได้มั้ย หรือว่าดูละครอย่างพวกซีรี่วายอย่างนี้ได้มั้ยคะ อาบัติมั้ยคะ
หลวงพี่สมปอง
มีรุ่นใหญ่ตอบไว้ก่อนแล้ว หลวงพ่อพระพยอม “ดูหนัง ดูละคร ให้รู้ทิศทางกิเลส จะได้เทศน์สะกัดได้ถูก โยม”
พอดูเรารู้ เราจะได้ อ๋อทางโลกเขาไปทางนี้ แล้วเราจะเอาธรรมะอะไรไปบอกไปสอนเขา
ในหนังในละคร มันก็จะมีสอนใจ มีธรรมะตลอดนะ ว่าคนที่เขาทำผิด ตอนแรกจะเหมือนได้ดิบได้ดี เจริญรุ่งเรือง แต่สุดท้ายพอจบเนี่ย ก็จะแพ้ธรรมะตลอด
ฉะนั้นหนังละครเนี่ยจะก็มีธรรมะสอนใจ เวลาเราไปเทศน์ไปบรรยาย ต้องพูดในสิ่งที่เขารู้ เขาสนใจ ใกล้กับชีวิตของเขา แล้วเราก็ใส่ธรรมะเข้าไป
พระก็เลยดูเพื่อการนี้ อันนี้ก็จะพอได้
หลวงพี่นภันต์
ในมุมผม น่าจะชวนมองในแง่ของวินัยก่อนละกันนะว่า ข้อบัญญัติของพระพุทธเจ้า บัญญัติไว้ยังไง บังเอิญเหตุเกิดของกรณีนี้ มันเกิดจากการที่มีพระ ท่านใช้คำว่า พระสัตตรสวัคคีย์ เป็นแก๊งค์ออฟเซเว่นต์ทีน คือ มี 17 รูป
17 รูปเนี่ยก็ไปดูมหรสพ สมัยนั้นยังไม่มีซีรี่เนอะ ไปดูมหรสพที่ยอดเขา ปรากฎว่าพอไปตอนกลางคืน ญาติโยมเห็นพระมา ก็นิมนต์นั่ง ล้างเท้าถวายของ สแนก ของขบฉัน ดูแลอย่างดีเลย แล้วปรากฎว่าพระกลุ่มนี้ ท่านก็หวังดี เห็นว่าตัวเองได้ฉันอะไรๆ อร่อยๆ แล้วก็อยากให้พระที่วัดฉันด้วยบ้าง ก็เอากลับไป พอไปถึงที่วัด ก็ให้พระแก๊งค์ออฟซิกซ์ เขาเรียกว่า พระฉัพพัคคีย์ ฉันเลย พระฉัพพัคคีย์ก็บอกว่า ท่านฉันเวลาวิกาลได้ยังไง เวลาวิกาลคือ หลังเที่ยงวันไปแล้วจนถึงอรุณรุ่งวันถัดไป
เรื่องก็มาถึงพระพุทธเจ้า พระพุทธเจ้าก็เลยบัญญัติว่า ถ้าเกิดภิกษุใดไปดูมหรสพ ถือว่าทำอย่างสิ่งที่คฤหัสบริโภคกาม เขาติเตียนไม่เป็นไปเพื่อความเลื่อมใส ก็ต้องอาบัติ
ทำไมพระถึงห้ามฉันข้าวเย็น?
อาไท
หลวงพี่ครับ เมื่อสักครู่หลวงพี่กล่าวถึงเรื่องการฉันใช่มั้ยครับ ทำไมพระถึงห้ามฉันข้าวเย็นครับ
หลวงพี่นภันต์
จริงๆ แล้ว วินัยข้อนี้ ส่วนหนึ่งก็คือเพื่อให้พระได้มีชีวิตที่โปร่งโล่งเบา ไม่ต้องไปห่วงเรื่องฉัน มีเวลาปฏิบัติธรรม ถ้าแบบพระจะต้องมา โอยโยมช่วยปอกมะพร้าวให้หน่อย ปอกสับปะรด ปอกแตงโม อันนี้มันก็เป็นภาระ ฉะนั้นก็พระพุทธเจ้าก็ถือว่าอันนี้ให้งดไป
ฉันแต่น้ำบะหมี่กึ่งสำเร็จรูปแต่ไม่ฉันเส้น ต้องอาบัติไหม?
อาไท
สมมติว่าเราต้มบะหมี่กึ่งสำเร็จรูป แต่เราฉันแต่น้ำอย่างนี้นะครับ ไม่ฉันเส้น เราอาบัติมั้ยครับ
หลวงพี่นภันต์
เคยเจอคำถามพระใหม่ครับพระอาจารย์ พระใหม่บอกว่า เออผมใช้วิธีปั่น แล้วก็เอาหลอดดูดได้มั้ยครับ
แต่จริงๆ ในวินัย บอกว่าของเคี้ยวของฉันบัญญัติไว้ชัดเจนว่า ของฉันหมายถึงอะไรบ้าง ของเคี้ยวหมายถึงอะไรบ้าง ฉะนั้นของที่ถือว่าเป็นของฉัน แม้จะไปเปลี่ยนสถานะมันแล้วเนี่ย ก็ยังเป็นของฉันอยู่ เหมือนกับโจ๊ก เหมือนกับปั่นมาม่า แต่ถ้าน้ำแข็งเนี่ย เดิมมันคือน้ำใช่มั้ยครับ แม้มันเป็นก้อน อันนี้พระก็ฉันได้โดยไม่ถือว่าเป็นของเคี้ยวของฉัน
ใส่บาตรไม่ครบจำนวนพระ บาปไหม?
ตุ๊กกี้
นมัสการหลวงพี่ค่ะ ตุ๊กกี้ค่ะ คือในวันที่เราใส่บาตร ตักบาตรน่ะค่ะ ในวันนั้นน่ะมีหลวงพี่ เณรน้อย สามเณรมาประมาณ 15 ค่ะ แล้วหนูน่ะใส่ไม่ครบ หนูเตรียมมา 9 น่ะค่ะ อีก 6 ท่าน 6 องค์ 6 รูป ที่หนูไม่ได้ใส่ หนูจะบาปมั้ยคะ ปัญหาคาใจเลย ไม่กล้าใส่บาตรเลย มันไม่ครบอ่ะคะ กลัวมันไม่ครบ
หลวงพี่สมพงษ์
เป็นห่วง เป็นบาปจริงมั้ย ไม่บาปหรอกครับ เพราะก็อย่างตะกี้ที่บอกล่ะ บางทีมา แต่ถ้าไม่ใช่วัดประจำที่เราอยู่ เช่นต่างจังหวัด เรารู้อยู่แล้วว่า มีกี่รูปสายนี้ ถ้าเกิดว่าในเมือง บางทีพระจะเดินเป็นแถวเป็นกลุ่ม หรือเดินแยกรูปแล้วแต่ เราไม่รู้ว่าจะมากี่รูปไง เราก็สามารถใส่ได้ ไม่แน่นะบางทีพระที่ไม่ได้รับเนี่ย อาจจะฉันวงเดียวกัน คณะเดียวกันกับกลุ่มนั้นด้วยเหมือนกัน ก็คืออย่าลืมว่าตามกำลังศรัทธา อันนี้คุณตุ๊กกี้สบายใจได้ ไม่บาปตรงนี้หรอกนะ
หลวงพี่นภันต์
เมื่อกี้ฟังพระอาจารย์บอกว่า ใส่มาถึงเรา แล้วไม่ได้ใส่เลยร้าวรานใจ แต่ไอ้ที่จะร้าวรานกว่าที่โยมตุ๊กกี้ว่า เลยไม่กล้าใส่บาตรเลย อันนี้จะร้าวรานกันทั่วสงฆ์ไทยเลย
แต่คือต้องบอกว่า เราตั้งใจเป็นสังฆทาน ไม่จำเป็นต้องทุกรูปครับและก็มีกำลังเท่าไรก็เท่านั้น ขอให้มีจิตมุ่งมั่นที่จะบำรุงพระศาสนา
สวมรองเท้าขณะใส่บาตรจะไม่ได้บุญจริงไหม?
อาไท
หลวงพี่ครับ ผมได้ยินมาตอนเด็ก ๆ ยันโตเลยครับหลวงพี่ ว่าเวลาใส่บาตรพระเนี่ย ผู้ใหญ่จะบอกว่า “แน่ะ ห้ามใส่รองเท้านะ ถ้าใส่รองเท้าใส่บาตร จะไม่ได้บุญ” จริงมั้ยครับหลวงพี่ครับ
หลวงพี่สมปอง
เขาจะไม่ให้อยู่สูงกว่าพระเนี่ยแหละ พระไม่ใส่รองเท้าบิณฑบาต เราอยู่บนรองเท้าก็จะสูงกว่า คนโบราณจะให้เราเคารพพระเณร ถ้าท่านไม่ใส่ เราก็ไม่ใส่นะ แต่โยมบ้านเราก็จะฉลาด ฝนมันตก มันแฉะ พอถอดปั๊ปก็เหยียบบนรองเท้า สูงหนักกว่าเดิมอีก เลยไม่รู้จะยังไงกันแน่
จริงๆ มันก็ประยุกต์ได้ บางทีมันฉี่หนู น้ำครำมันไม่สะอาด จริงๆ ก็ประยุกต์ได้ในยุคสมัยนี้ แต่คนโบร่ำโบราณ ท่านก็จะเคร่งหน่อย ท่านก็จะไม่ใส่ และก็ก้มตัวด้วย อะไรแบบนี้ ก็เป็นการแสดงความเคารพ ให้เกียรติมากกว่า
พระทำบุญอย่างไร?
น้านงค์
กราบนมัสการครับ คือน้านงค์มีคำถามอยากจะถาม เวลาที่ญาติโยม อยากจะทำบุญ โดยส่วนมากญาติโยมก็จะเดินทางไปที่วัดเพื่อไปทำบุญกับพระที่วัด แต่ว่าถ้าพระอยากจะทำบุญบ้าง ไม่ทราบว่าพระมีวิธีทำบุญแบบไหน อย่างไรบ้างครับ
หลวงพี่สมปอง
จริงๆ แล้ว พระเราเคยเห็นนะครับ ตอนนี้ท่านไปอยู่ญี่ปุ่นแล้ว ท่านเป็นฆราวาสแล้วล่ะ วันเกิดท่าน วันคล้ายวันเกิด ท่านก็ใส่บาตรพระด้วยกัน หรือบางทีนั่งรถไปต่างจังหวัดไปบรรยาย ยังงี้เราก็เห็นพระที่ท่านน่ะ ใส่บาตรพระธุดงค์ ท่านแบ่งปันมา ญาติโยมทำบุญมา ท่านก็ทำบุญต่ออะไรอย่างงี้ ท่านก็ทำบุญเหมือนกัน แต่อาจจะไม่ได้มากมายเหมือนญาติโยมนะ ที่เราจะไปทำบุญกับพระด้วยกัน จะมีบางรูป
อย่างอาตมาก็จะให้ทุนการศึกษา อะไรอย่างนี้ เลี้ยงขนม เลี้ยงไอติมเด็กๆ นักเรียน เราก็จะไปทางนี้นั้น เพราะว่าโยมทำบุญมาที่วัดแล้ว พระเราก็สวนออกไปที่โรงเรียนบ้าง ที่ชุมชนบ้าง แล้วก็ถือว่าเป็นการทำบุญอย่างหนึ่ง อาตมาก็จะเป็นอย่างนั้น
หลวงพี่สมพงษ์
ก็จริงๆ โยมอาจจะลืมว่า การทำบุญมันมีอยู่โดยย่อ 3 นะ ก็คือ ให้ทาน ก็ที่เราเน้นๆ กันนี่แหละ รักษาศีล และก็เจริญสมาธิภาวนา 3 ข้อนี้จริงๆ พระเราก็สามารถทำข้อ 2 ก็ได้ ข้อ 3 ก็ได้ ส่วนข้อ 1 อย่างที่บอกทำไปแล้ว หรือบางที โดยละเอียดจะมี 10 ข้อ ช่วยงานสังคม ทำตัวเป็นคนสอนง่าย อ่อนน้อมถ่อมตน แม้กระทั่งพระออกมาสอนธรรมะโยม เผยแผ่ธรรมะ ก็เป็นการทำบุญ ทุกอย่าง หลายๆ อย่าง บุญมันมีหลากหลาย พระก็จะเลือกทำสิ่งเหล่านั้น แม้กระทั่งโยมก็เช่นเดียวกันนะ บางทีไม่มีอาหาร ไม่ได้ทำบุญ ก็ทำอย่างอื่นแทนได้นะ รักษาศีล เจริญภาวนา ก็ได้บุญเหมือนกัน
สวดมนต์ผิด ๆ ถูก ๆ จะได้บุญไหม?
จ่อย ไมค์ทองคำ
ปกติพี่จ่อยจะเป็นคนที่พูดจาจะไม่ค่อยชัด แล้วก็เวลาสวดมนต์ก็จะผิด ๆ ถูก ๆ แต่ผมก็ตั้งใจครับผม ไม่รู้ว่าแบบนี้จะได้บุญรึเปล่าครับ
หลวงพี่สมปอง
พูดไม่ค่อยชัด สวดมนต์ไม่ค่อยชัดแล้วจะได้บุญรึเปล่า แต่ตั้งใจดีนะฮะ ไม่จำเป็นต้องสวดครบด้วยซ้ำ อะไรอย่างนี้ คือด้วยเจตนา ด้วยความตั้งจิตตั้งใจในการที่จะถ่ายทอดให้ เป็นเจตนาที่ดี แล้วบางทีพอตั้งใจสวดน่ะ แต่ว่าเราไม่ได้เรียนภาษาบาลีมา ไม่ได้เปรียญธรรม 9 ประโยค เราก็เลยไม่ค่อยชำนาญ แต่บางทีเนี่ย เดี๋ยวค่อยฟังท่านว่า บางทีมันผิดเพี้ยนในความหมายเปลี่ยนก็มี บางศัพท์บางอะไรเนี่ย
ฉะนั้นแล้ว เราเป็นชาวพุทธ เรามีความตั้งจิตตั้งใจดี แต่เราไม่ได้เก่งเรื่องภาษา หรือเราพูดไม่ชัด แต่ความตั้งใจเราชัด ความมุ่งมั่นเราชัด เจตนาเราชัด บุญก็ได้ชัดเจนตอนนั้นอยู่แล้ว
หลวงพี่สมพงษ์
ครูบาอาจารย์ท่านก็พูดเรื่องนี้อยู่เหมือนกัน เอาง่าย ๆ บทสวดของไทยกับบทสวดของจีน นะโม ก็สำเนียงเสียงก็ไม่เหมือนกันนะ ถ้าเกิดใจเราน้อมถึงพระรัตนตรัย คือเราได้บุญตั้งแต่ตรงนี้แล้ว
การสวดผิด ถ้าเกิดเราไม่ตั้งใจ เราไม่ได้ขี้เกียจ หากเราตั้งใจแล้ว เราเต็มที่แล้ว แต่เรารู้สึกเหมือนออกเสียงยังไม่ชัด ก็ขอให้ใจเราน้อมถึงพระรัตนตรัย ก็ได้บุญแล้ว แต่ถ้าหากเรามีโอกาส เข้าใจ ก็ค่อยปรับค่อยปรุง ให้ค่อยเปลี่ยนแปลงให้ดีขึ้นได้ในทีหลังได้
สวดมนต์ผิด ๆ ถูก ๆ จะได้บุญไหม?
คิง ก่อนบ่าย
อยากจะถามว่า การที่เราบูชาพ่อแม่อยู่บ้าน แล้วก็สวดมนต์อยู่บ้าน ไม่ได้ไปวัด ไม่ได้ไปทำบุญที่วัด เราจะได้อานิสงส์จากการทำบุญมั้ยครับ
หลวงพี่สมปอง
รู้สึกจะมี 2 ประเด็น ก็คือเหมือนบูชาพ่อแม่ คงจะหมายถึงการดูแลเนอะ การดูแลพ่อแม่ ซึ่งจะตรงกับพี่ตุ้ย พี่สาวอาตมาซึ่งไม่ค่อยได้มีโอกาสหรือเวลาที่จะไปวัด เพราะต้องดูแลพระอรหันต์ในบ้าน คือโยมแม่ตาลเนี่ยตลอด บางทีชาวบ้านก็จะมีแซวเหมือนกัน ไม่ค่อยเข้าวัดเข้าวา เรารู้สึกว่าพี่สาวรู้สึกว่า เราก็ได้ดูแลพระอรหันต์ในบ้าน และก็บ้านแม่เขาก็มีพระพุทธรูป ก็ได้ไหว้ ได้อะไรอยู่แล้ว
เหมือนมีคำพูดของพระเถระรูปนึงนะ บอกว่าถ้ายังไม่ได้ดูแลพระในบ้าน ก็อย่าเพิ่งไปดูแลพระที่อื่น ซึ่งก็มีหลาย ๆ รูป หลาย ๆ ท่านได้พูดตรงนี้ไว้ ฉะนั้นถ้ามีโอกาสไปทำบุญที่วัดบ้าง เราก็ไป ช่วงนี้ถ้าไม่สะดวกก็ไม่เป็นไร ทำทั้ง 2 ที่ได้เลย เจริญพร อยู่ที่ไหนก็ได้บุญเหมือนกัน
หลวงพี่นภันต์
อย่างที่โยง เรื่องบุญกิริยาวัตถุ 10 เมื่อกี้นะครับอาจารย์ ว่าทำบุญไม่ได้มีเรื่องให้ทานอย่างเดียว ฉะนั้นก็ฝากฟังกับอันนั้น ที่อยากจะเสริมก็คือ วันนี้ทานมัย บุญสำเร็จด้วยการทำทาน อาจจะส่วนที่ดูแลพระในวัดก็ส่วนหนึ่ง แต่อยากให้นึกถึงชุมชนคนเปราะบาง คนที่เดือดร้อน โรงพยาบาล ถ้าท่านมีกำลัง ท่านช่วยสถานที่เหล่านี้ ช่วยคนที่มีความทุกข์ยากอย่างนี้ ก็จะถือว่าเป็นบุญสำคัญ เพราะว่าให้ในเวลาที่เขาต้องการอย่างที่สุด ถ้าทำอย่างนี้เราก็จะร่วมกันฝ่าฟันโควิดครั้งนี้ไปด้วยกันได้
หลวงพี่สมปอง
เพราะงั้นคุณคิงก่อนบ่ายอยู่ที่ไหน ทำบุญอยู่ที่ไหนก็ได้บุญเช่นเดียวกัน เจริญพร
นั่งสมาธิ 10 นาที กับ 30 นาที แบบไหนได้บุญมากกว่ากัน?
นัท มาลิสา
สวัสดีค่ะ นัท มาลิสา ศิลปินจากค่ายยุ้งข้าวเร็คคอร์ด ค่ะ วันนี้หนูก็มีเรื่องที่อยากจะสอบถามนะคะ คือปกติหนูเป็นคนชอบนั่งสมาธิ เลยอยากทราบว่าการนั่งสมาธิเนี่ยได้บุญมั้ย แล้วก็ถ้าได้บุญเนี่ย ระหว่างการนั่งสมาธิ 10 นาที กับการนั่งสมาธิ 30 นาที ได้บุญเหมือนกันมั้ยนะคะ
หลวงพี่สมปอง
นั่ง 10 นาที แต่มีสมาธิตั้งมั่น สมาธิแปลว่า ความตั้งมั่นแห่งจิต จริง ๆ แปลได้หลายอย่างนะ เดี๋ยวพระอาจารย์นภันต์จะแปลให้ฟังด้วย มีความตั้งมั่น 10 นาที แต่จิตใจมีสมาธิมาก แต่กับ 1 ชั่วโมงที่ฟุ้งซ่าน ภาษาพระเขาเรียก ฟุ้งซ่านรำคาญใจ คิดไปตรงนั้น คิดไปตรงนี้
อาตมาเคยแซว มานั่งอยู่ที่วัดน่ะ “หัวต่อ หัวต่อ มีใครหุงข้าวมั้ยหนอ” “หัวต่อ ๆ หาอะไรให้หมากินมั้ยหนอ” นั่งอยู่วัดแต่ใจอยู่บ้าน ไม่มีสมาธิ แต่นั่งไปครึ่งวัน 1 วัน ก็ไม่มีประโยชน์ เท่ากับ 10 นาทีนั้น หรือ 1 นาทีด้วยซ้ำไป ที่ชั่วช้างกระดิกหู งูแลบลิ้น แล้วจิตใจตั้งมั่น ฉะนั้น ไม่ได้เกี่ยวกับปริมาณเวลาของการนั่ง ไม่ว่าจะสมาธิแบบไหน ถ้าจิตใจเราเป็นสมาธิ เราก็ได้บุญ
จริง ๆ สมาธิมันมีกี่อย่าง กี่อริยาบถอย่างไรบ้างครับ
หลวงพี่สมพงษ์
จริง ๆ สมาธิมันมีอยู่ 4 อริยาบถ ยืนสมาธิก็มี ยืนนิ่ง ๆ 2 เดินสมาธิ ศัพท์เฉพาะ คือเดินจงกรม ไม่ต้องหลับตา เดินจงกรม กลับไปกลับมา ไม่ใช่กลมนะ กรม ร.เรือ เดินจงกรม 3 นั่งสมาธิ อันนี้นิยมกันเยอะหน่อย อันนี้สำหรับคนที่เชี่ยวชาญแล้ว นอนสมาธิ นอนยังเป็นสมาธิได้ ไม่ต้องมีนาฬิกาปลุกน่ะพระบางรูป
จริง ๆ ถ้าตอบคำถามคุณโยมเมื่อกี้ ก็ความหมายคือมันมีทั้ง เชิงปริมาณและเชิงคุณภาพ อย่างที่พระอาจารย์สมปองพูด เชิงปริมาณคือ แน่นอนถ้าเกิดเรานั่ง 10 นาที กับ 30 นาที มันก็ได้แตกต่างกัน แต่ความหมายถ้าในเชิงคุณภาพ อย่างที่บอก ถ้าเกิดจิตนิ่งทั้งคู่ เป็นสมาธิทั้งคู่ นั่งนานก็ย่อมได้เยอะกว่า
การทำสมาธิก็เหมือนการออกกำลังกาย อันนี้น่าจะสายออกกำลังกายนะ ถ้าสายออกกำลังกายเนี่ย เราเล่นครึ่งชั่วโมงกับ 1 ชั่วโมง มันก็ย่อมแตกต่างกันนะ แต่เราขอให้เล่นถูกวิธีเท่านั้น หรือถ้าเราเกิดไม่เป็นสมาธิแล้ว ไม่ไหวจริง ๆ เราก็อย่าฝืนแล้วกัน มันจะกลายเป็นว่าทรมานตัวเองเกินไป เพราะบางคนไม่ถนัดในการนั่ง บางคนแค่หลับตาก็ปวดหัว บางคนหลับตาเวียนหัว ใช้เดินก็ได้ ใช้เพ่งก็ได้ หรือใช้ยืนสมาธิก็ได้ เจริญพร
วิ่งสมาธิได้ไหม?
อาไท
หลวงพี่ครับ นอกจากยืน เดิน นั่ง นอน เราสามารถวิ่งสมาธิได้มั้ยครับ จังหวะแบบว่า สมมุติว่าโค้ชให้วิ่งคาร์ดิโอสัก 1 ชั่วโมง ระหว่างเราคาร์ดิโอ เราสามารถทำสมาธิได้มั้ยครับ จะได้ทำ 2 อย่างในเวลาเดียวกันไง
หลวงพี่นภันต์
จริง ๆ ในแง่ของเดี๋ยวนี้ เราจะมีเรื่องการทำสมาธิแบบเคลื่อนไหว ตามแนวหลวงพ่อเทียนที่ทำมือแล้วก็ให้รู้ตัวว่ากำลังขยับขับเคลื่อนอะไร ก็มีสติ อย่างนี้ก็มีเหมือนกัน ก็เป็นที่นิยมนะครับ ทั้งในหมู่ชาวพุทธไทย และก็มีการเผยแพร่ไปที่จีนด้วย ที่ตะวันตกก็มีเหมือนกัน
คราวนี้ไปรวมกับที่ถามเมื่อกี้ว่าวิ่งแล้วเป็นสมาธิได้มั้ย จริง ๆ สมาธิมันคือชื่อของสภาวะที่จิตตั้งมั่น แต่ว่าต้องแยกกันระหว่างเวลาเราพูดว่าทำสมาธิ มันคือขบวนการฝึก กับต้องแยกระหว่างสภาวะที่เป็นสมาธิ เพราะว่าจริง ๆ คนที่ฝึกวิ่งมาราธอน เขาก็จะรู้ว่าพอถึงจุดหนึ่ง สภาวะที่ได้รับฮอร์โมนที่มันหลั่งเวลาที่ออกกำลังไปถึงจุดนึงอย่างนั้นน่ะ มันก็มีภาวะที่ไม่ต่างไปจากอะไรที่เราได้เวลาทำสมาธิ
แล้วก็ที่ถามว่ามันทำได้มั้ย ทำได้ แล้วมันมีกี่ขั้นครับ สมาธิมีกี่ขั้น ที่นี่ในแง่ขั้นเนี่ย ขออนุญาตกลับไปเพื่อตอบคำถามที่เมื่อกี้ถามว่า หนึ่งได้บุญมั้ย อันนี้ได้บุญแน่ ๆ เพราะว่าในทาน ศีล ภาวนา ที่เป็นบุญกริยาวัตถุนี่ เราถือว่าภาวนาคือตัวที่สูงสุด ทานยังเป็นเรื่องสละภายนอก ศีลเป็นการควบคุมกาย วาจา ส่วนจิตภาวนานี่ เป็นเรื่องที่เน้นไปที่ใจ แล้วมันจะมีผลต่อการควบคุมกายกับวาจาต่อไป
คราวนี้ในแง่ของ ถามว่า 1 นาที กับ 30 นาที อย่ามองแยกกันเนาะ ถ้าให้เทียบง่าย ๆ เหมือนกับที่เมื่อกี้อาไทพูดถึงเรื่องคาร์ดิโอ เวลาเราเบิร์นไปถึงจุดนึงที่หัวใจอาจจะเต้นมากกว่า 120 ต่อนาที มันจะถึงสภาวะที่เผาผลาญไขมันได้อย่างมีประสิทธิภาพใช่ไหมครับ เหมือนกันในแง่การทำสมาธิ ไม่ใช่อยู่ดี ๆ นั่งปุ๊ปจะเป็นสมาธิได้เลย มันก็ต้องผ่านการค่อย ๆ นั่ง 30 นาที แล้วอยู่ดี ๆ มันจะมีถึงจุดที่ไม่นึกถึงข้าว ไม่นึกถึงอะไร ใจจดจ่อกับลมหายใจ แล้วเกิดที่เรียกว่า ขณิกสมาธิ สมาธิชั่วขณะ หรือเป็นสมาธิแนบแน่นที่เรียกว่า อัปปนาสมาธิ ซึ่งอันนี้ จะเริ่มไปถึงจุดที่เป็นบุญเป็นกุศลมากมาย เพราะมันจะเริ่มไปสู่ขบวนการขัดเกลากิเลสอย่างสิ้นเชิง
คราวนี้แถมท้ายครับพระอาจารย์ ในเชิงบูรณการ พุทธศาสนาเราไม่ได้ถือว่า เน้นสมาธิอย่างเดียว เรามีไตรสิกขา ศีล การควบคุมกาย วาจา สมาธิ การพัฒนาคุณภาพของใจ ความตั้งมั่น และสุดท้ายก็ปัญญา ความรู้ ความเข้าใจ สมาธินี้จะช่วยควบคุม กาย วาจา และเป็นฐานให้ปัญญาทำหน้าที่ได้เต็มที่ขึ้น ถ้าเกิดเรามีใจ เรามีปัญญา แต่ว่าใจมันไม่นิ่ง เราจะไม่สามารถเห็นกิเลสชัดเจน จะกำจัดมันออกไปไม่ได้ อันนี้คือมุมเชิงบูรณาการ
สุดท้ายอยากให้หลวงพี่สรุปเรื่องการทำบุญสักนิดนึงครับ
หลวงพี่สมปอง
เจริญพร การทำบุญย้ำอีกครั้งนะครับ มีทั้งทาน ศีล ภาวนา พระอาจารย์นภันต์ ท่านบอกไปแล้ว ถ้าเราจะภายนอก เราก็บริจาคไป ซึ่งเป็นเรื่องที่ดีนะ โรงพยาบาล การช่วยเหลือกันในช่วงโควิด 19 แบบนี้ ก็เป็นสิ่งที่ดีมาก ๆ หลังจากนั้นเราก็มา ศีลมัย รักษาศีล กายกับวาจาเราให้เรียบร้อย แต่ถ้าอยากให้ลึกลงไปกว่านั้น คือการเจริญภาวนา ดูแลจิตใจของเรา โดยเฉพาะในช่วงนี้ที่จะต้องดูแลจิตใจเราให้จิตใจเข้มแข็ง การเจริญสมาธิภาวนาก็ช่วยคุณโยมได้ มาปฏิบัติธรรมกันในทุก ๆ ทาง คุณโยม เจริญพร
