“อย่าให้สิ่งที่คนอื่นแสดงออกด้วยคำพูดหรือการกระทำ กำหนดสิ่งที่เราเป็น” ____พระมหานภันต์ สนฺติภทฺโท ประธานมูลนิธิ IBHAP
“อย่าให้สิ่งที่คนอื่นแสดงออกด้วยคำพูดหรือการกระทำ กำหนดสิ่งที่เราเป็น”
ส่วนใหญ่เราเลือกได้ที่จะตอบโต้ โดยมากมันเป็น react แต่อยากชวนเป็น respond คิดใคร่ครวญแล้ว แล้วก็ค่อยตอบ
บางทีเราไม่ต้องตอบอะไรไปก็ได้ วิลตัน เชอร์ชิล บอกว่า เราไม่สามารถถึงปลายทาางได้แน่ๆ ถ้าระหว่างเดินทางเราหยุดเอาหินขว้างสุนัขทุกตัวที่มันเห่าเรา
ฉะนั้น ไม่มีประโยชน์ที่จะไปโต้ตอบ ในส่วนตัวของพระอาจารย์จะถือเป็นโอกาศฝึกตัวว่าเราฝึกดีพอหรือยัง แม้กระทั่งที่เล่าเป็นตัวอย่างว่าโดนหลายครั้งตอนอยู่ต่างประเทศ underground ที่น้องวัยรุ่นเข้ามทำท่าเหมือนขู่ ก็ได้เห็นว่าเราเข้าใจเขาแค่ไหน แล้วเราจะไปสื่อสารให้เกิดประโยชน์ยังไง โดยความรู้สึกไม่ได้โกรธอะไรเลย เลยมีแต่เข้าใจว่าเขาทุกข์
เวลาเจออูเบอร์ ส่วนใหญ่พี่น้องที่ขับอูเบอร์ที่อังกฤษจะเป็นมุสลิม เขาก็จะมีคนนึงไปถึงปลายทางแล้วไม่ยอมลง ควักรูปที่พี่น้องเมียนมาร์โดน เป็นศพ แต่จริงๆ ภาพนั้นมันเป็น fake news มันเป็นพายุนากีส แต่เขาก็บอกว่านี่เป็นที่พระฆ่า เขาสะเทือนใจมาก ทีนี้เราก็ต้องเข้าใจว่าเขาเกิดอะไร ก็สื่อสารอะไรได้ก็ว่าไป อันนี้คืออย่าไปคิดว่าเป็นเรื่องบูลลี่อย่างเดียว แต่ว่าเป็นเรื่องที่เราจะถือโอกาสทำความเข้าใจระหว่างกัน
นอกจากนั้น บางทีเดินไปเขามีชุมนุมประท้วงเกี่ยวกับเรื่อง refugee ที่ตอนนั้นมีเรือที่จะเข้าตุรกีหรืออะไรอย่างนี้ พอเขาเห็นเป็นพระเขาก็เอาใบปลิวมาแปะไว้ที่อก คือเดินผ่านแล้วก็แปะเลย แล้วก็เดินหนีไป เราก็ต้องเข้าใจว่าเขาทุกข์เพราะอะไร ไม่ใช่จะไปโกรธเขาว่าไม่รู้กาละเทศะ ก็ไม่ใช่ เราต้องมองด้วยความรู้ความเข้าใจนี้เป็นหลัก
ถ้าในเชิงจิตวิทยา คนที่ทำบูลลี่เขามีความบกพร่องในตัวของเขาเองอยู่แล้ว เขาถึงอยากจะแสดงอะไรบางอย่างออกมา ในฝั่งศาสนา ในฝั่งพุทธเอง พระพุทธเจ้าท่านจะบอกว่า มีครั้งหนึ่งที่คนเดินระหว่างเมืองมีคนกลุ่มที่ชอบพระชอบพุทธศาสนากับกลุ่มที่ไม่ชอบ คนไม่ชอบก็นินทา คนชอบก็สรรเสริญ พระก็มายืนคุยกันว่าทำไมเป็นอย่างนี้ พระพุทธเจ้าก็บอกว่า ถ้าเกิดว่าเราโกรธ คนที่เขาตำหนิเรา เราจะรู้ไหมว่าเขาต้องการจะสื่อสารอะไร
งั้นเบื้องต้นเลย “อย่าให้ความโกรธมากระทบใจเวลาที่เราโดนบูลลี่” บางทีมี่เราโดนบูลลี่ เพราะคนนั้นเขาอาจจะกำลังขอความช่วยเหลืออะไรบางอย่างจากเราก็ได้ เขาอาจจะต้องการความเห็นใจ
พระพุทธเจ้าก็บอกว่า ถ้าเขาตำหนิติเตียน บูลลี่ ก็ดูว่ามันเป็นเพราะอะไร แล้วข้อเท็จจริงคืออะไรก็ชี้แจงไป ในส่วนของคำชม อะไรจริงก็ว่าไป ไม่ต้องไปเหลิง ไม่งั้นโอกาสจะปรับปรุงก็จะไม่มี
คำถามที่ว่า “พหุ ทำยังไงจะ work?”
1) เปิดพื้นที่ใจ เพื่อนำไปสู่การเปิดพื้นที่จริง
2) เปิดพื้นที่จริง เพื่อนำไปสู่พื้นที่ใจ
3) เปิดพื้นที่เสมือนจริง เพื่อนำไปสู่การเปิดพื้นที่จริงและเปิดพื้นที่ใจ
ไม่ว่าจะโดยวิธีการไหนๆ ก็แล้วแต่ เพราะยกตัวอย่าง นาวาลก็เขียนเฟซเล่าเรื่องที่ไปเข้าค่ายอบรม แล้วมันก็สื่อสารสิ่งดีๆ ออกมาให้คนได้รับรู้ ก็ได้เปิดพื้นที่ใจตามมา ซึ่งการเปิดพื้นที่ของนาวาลเป็นการเปิดพื้นที่เสมือนจริง
ทั้ง 3 วิธีการ ต้องทำอย่างมียุทธศาสตร์ สื่อสารเป็น คนที่เขาเห็นด้วยจะสื่อสารยังไง คนที่ไม่เห็นด้วยจะสื่อสารยังไง คนที่เห็นกลางๆ จะสื่อสารให้เขาเห็นด้วยทำยังไง มันมีวิธีการแตกต่างกัน
สุดท้าย “อย่าไปคาดหวังว่าจะไม่มีความขัดแย้ง”
วันนี้ทุกท่านที่มานั่งฟัง มานั่งคุย มานั่งแลกเปลี่ยนเสวนาแล้ว พร้อมที่จะคบกันต่อไป พร้อมที่จะช่วยกันโยนปลาดาวให้มันไปรอดได้ในทะเลหรือยัง “เราพูด เราคิด เราทำอะไร มันส่งผลกระทบต่อคนใดคนหนึ่งเสมอ”
ถ้าพร้อมที่จะร่วม วันนี้ทำง่ายๆ มากเลย ช่วยกันถ่ายคนละรูปสองรูปหน้าแบล็คดรอปแล้วอัพในโซเซียลมีเดียของตัวเองก็มีกำลังเยอะแล้วกับสังคม
“Peace in One’s Heart Start in One’s Hand สันติสุขในใจใคร เริ่มต้นได้ที่ใจเรา” แต่อย่าหยุดเพียงแค่เรา สร้างระบบมาช่วยกัน มือบนมือล่างช่วยกันประสานให้เกิดความดีงามขึ้นในสังคมนี้ เพราะสุดท้ายแล้ว “สิ่งที่เราทำส่งผลต่อตัวเราเองและคนอื่นเสมอ”
ขออนุโมทนา Peace be upon you all ขอสันติสุขจงมีแด่ทุกท่าน
[[ LIVE ]] โครงการ พหุวัฒนธรรม : กลไกการอยู่ร่วมกันในสังคมที่หลากหลายวันที่ 22 ธันวาคม 2563ณ ห้องประชุมอาคารเฉลิมพระเกียรติ มหาวิทยาลัยฟาฏอนีติดตามถ่ายทอดสด FTUtv ทางFB : FTUtv https://www.facebook.com/FTUtvYouTube : FTUtv http://bit.ly/FTUtv_ChannelTwitch : FTUtv https://www.twitch.tv/FTUtvTwitter : FTUtv https://twitter.com/FtuTvInstagram : FTUtv https://instagram.com/ftutv