เล่นมุกตลกล้อเลียนพระ บาปไหม?
พระกลัวผีได้ไหม?
พระดื่มเหล้าได้ไหม?
ทำบุญล้างบาปได้หรือไม่?
กราบนมัสการ 3 พระนักเทศน์ชื่อดัง
เพื่อมาชี้ทางธรรมให้กับญาติโยมทุกคน
ไขปัญหาด้วยธรรมะอารมณ์ดีที่เข้าใจได้ง่าย ๆ
แขกรับเขิญคนแรกของรายการเป็นถึงตลกรุ่นใหญ่โน๊ต เชิญยิ้ม
คือตลกทุกคนเนี่ย ไม่ว่ารุ่นไหน เวลาเล่นมุก ต้องเล่นเกี่ยวกับพระ ล้อเลียนพระ บาปมั้ย ?
หลวงพี่สมปอง
จริง ๆ แล้ว เราดูที่เจตนานะ
เจตะนาหัง กัมมัง ภิกขะเว
ในทางพระพุทธศาสนา เน้นเจตนามากเลยนะ
เจตนาเราคืออะไร ที่เราจะเล่นมุขพระ หรือมุขกับพระ หรือเล่นกับใครก็แล้วแต่เนี่ย เราต้องการให้คนมีความสุข
ถามว่าบุญกับบาป ก็ต้องรู้ความหมายก่อน
บุญ นี่คือความดี คือกุศลกรรม ทำตามคำสอนในทางกาย วาจา ใจ ในทางศาสนา
ถ้า บาป ก็ตรงกันข้าม ก็คือความชั่ว ความเลว สิ่งไม่ดีต่าง ๆ
ฉะนั้น สิ่งที่เรากระทำนี่วกไปเพื่อกรรมชั่วไหม? คือความไม่ดีไหม? ฉะนั้นแล้ว มันตรงกันข้าม เราอยากให้คนมีความสุข อยากให้คนได้เสียงหัวเราะ
หลวงพี่สมพงษ์
เรื่องการทำผิดศีลแต่ละข้อเนี่ย สังเกต ข้อที่สำคัญที่สุดอยู่ที่เจตนา
เจตนาแล้วลงมือทำ แล้วก็ทำได้สำเร็จด้วย ถ้าเกิดเรื่องของตลก ที่เราหยอกล้อเล่นมุขพระนะ
ศีลข้อ 4 คิดอย่างนี้นะฮะ เอาตัวนี้เป็นตัวตั้ง พระพุทธเจ้าท่านบัญญัติขึ้นมาเพื่อป้องกันไม่ให้ใช้วาจาประทุษร้ายประโยชน์คนอื่น
เมื่อพูดแล้วเนี่ยะ พระเสียประโยชน์มั้ย ? เป็นการให้พระเสื่อมเสียมั้ย ? อะไรประมาณนั้น ถ้าเกิดว่า มีตรงนี้ปุ๊ป ก็ถือว่าผิด
โน้ต เชิญยิ้ม
ตลกก็คือจำอวด จำอวดก็คือการชวนหัว
สมมติว่า ผมเล่นเป็นพระ ผมก็จะให้ศีล 5 ที่ที่โยมมาขอ มันก็จะเป็นศีล 5 แบบตลก ผมบาปไหมครับ ? แต่มันก็อดเล่นไม่ได้ครับ
หลวงพี่สมปอง
มันไม่ถึงขั้นบาป เจตนาคืออยากให้สนุก มีความสุข เป็นกระเซ้า เย้าแหย่ เป็นหยอก ๆ อะไรอย่างนี้ฮะ เพราะเวลาที่คนมีความสุขนี่ อายุมันก็ยืน
หลวงพี่สมพงษ์
เราอยากให้โยมมีความสุขไงฮะ ตลกเหมือนกัน
เจตนาคือ ใช่ บางมุกอาจจะเล่นแล้วอารมณ์ ณ ตอนนั้น อาจจะเพลินไป อาจจะมีคนล้ำเส้น มันก็เหมือนนักกีฬานั่นแหละ แต่นักฟุตบอลอะ คือบางทีเจตนานี้ต้องการที่จะสไลด์บอล แต่บางครั้ง ผิดจังหวะ ผิดโอกาส หรืออารมณ์ร่วมตอนนั้น สูงเกินไป
เรื่องเจตนา เป็นสิ่งที่ตัดสินบุญบาปก็จริง แต่เรื่องต่อไปเนี่ย ไม่มีเจตนาเล่นตลก แต่ดันพูดเรื่องสิ่งที่ไม่สมควรกับพระสงฆ์ออกไปซะได้ แบบนี้ ถือว่าบาปไหมละครับเนี่ย ?
โน้ต เชิญยิ้ม
ไม่ได้เจตนาบาปไหม?
อย่างเวลาคนต่างจังหวัด เวลาใส่บาตร บางทีข้าวหก ข้าวร่วง ข้าวหล่นเนี่ย หมาที่บ้านมันก็จะมากิน ก็วิ่งไปกรู…จะดุหมา
ไป้..ไอ้นี้ เออ พอหมามา แล้วพระให้กรียวเลย
อย่างนี้ บาปไหมครับ ?
จริง ๆ จะดุว่า พอพระมา แล้วหมาให้เกรียว
หลวงพี่สมพงษ์
หมายถึงคนอารมณ์เขา อาจจะเพลินตรงนั้น ไม่บาปหรอก อันนี้แน่นอน อาจเป็นการพลาดพลั้ง แต่ถ้าเกิดพลั้งนี่ ถือว่าเป็นข้อยกเว้นในข้อมุสานะ
พลั้งพูด พลั้งเผลอ อารมณ์ร่วมสูงเกินไป เพราะถือว่า สิ่งที่พูดแล้วมันไม่เหมาะสม แต่ว่ามันไม่ผิดศีลข้อ 4 คือ
- โวหาร โวหารในการเขียนหนังสือไง เรียนมาด้วยความเคารพอย่างสูง แต่จริง ๆ ไม่เคารพ อันนี้ ไม่เป็นไร
- นิยาย ละคร ต่อให้โกหกยังไงก็ตามแต่ มันเป็นนิยาย เป็นละคร
- ก็คือ สำคัญผิด คือมันผิด แต่เราเข้าใจว่าอันนี้ถูก เราก็พูดว่าให้มันถูก อันนี้ก็ไม่ผิด
- แล้วก็ พลั้งพูด บางทีเราเล่นตลก อาจจะมุขนี้เราลามมาหาพระและบางทีเล่น อาจจะหนักเกินไป ณ บรรยากาศนั้น พลั้งเผลอ ไม่ผิด อันนี้ไม่เป็นไร
หลวงพี่นภันต์
คืออย่างที่บอกว่า ถ้าเจตนา โอเค ก็คือโอเคเบื้องต้นแล้ว เจตนาไม่มีอยากจะทำร้าย ทำลาย ให้พระเสียความรู้สึก หรือให้พุทธศาสนิกชนรู้สึกไม่ดี ทีนี้ต่อมาก็อยู่ท่าที วิธีการว่าเหมาะสมไหม?
ซึ่งทั้งหมดเนี่ย ถ้าเกิดโยมโน้ตยังใส่ใจอย่างเนี่ย แสดงว่ายังพิจารณาอยู่ว่า เอ้ย ทำไปแล้ว มันจะไม่โอเคไหม?
โน๊ต เชิญยิ้ม
ตลกบางทีพอเล่นมุข บางทีก็เล่นผิด
จริง ๆ มุขเขาต้องบอกว่า เออเนี่ย ใครบอกเมียผมไม่สวย ขนาดผมพาเมียไปที่วัดนะ หมาวัดเห็น ยังไม่รู้ว่าจะหอน หรือจะเห่าดี พันนี้มันก็ไม่เป็นไร แต่บางคนกลับเล่นว่า เจ้าอาวาสยังงงว่าจะหอน หรือเห่าดี อย่างเนี่ย บาปไหมครับ ?
หลวงพี่นภันต์
ตัวอย่างชัดเจน คือพอเป็นอย่างหลัง อันนี้ มันคือ ลดคุณค่าความเป็นพระ แล้วมันจะทำให้มันเป็นเรื่องธรรมดา
สุดท้าย เรากำลังสร้างบรรทัดฐานให้กับสังคมเป็นอีกแบบหนึ่ง ซึ่งมันไม่ค่อยน่าปรารถนาเท่าไหร่
โน๊ต เชิญยิ้ม
ถ้าเป็นสังคมบ้านนอก สมมติสมัยผมเด็ก ๆ เนี่ย พระก็คือครูเลยนะฮะ ให้อะไรต่ออะไรเราเยอะเลย
แล้วผมเนี่ย โตกับวัดนะฮะ ก็กินนอนกับวัด อยู่กับหลวงตาที่วัด พระกลัวผีได้ไหมหลวงพี่ อันนี้ ผมสงสัย
เปิดประเด็นใหม่ได้น่าสนใจจริง ๆ แหละครับ เรื่องแบบนี้ เชื่อว่าหลายต่อหลายคนก็คงจะไม่เคยรู้มาก่อนแน่ ๆ
พระกลัวผีได้ไหม?
โน๊ต เชิญยิ้ม
พระกลัวผีได้ไหมหลวงพี่ อันนี้ผมสงสัย
แล้วตอนที่ผมบวชนะฮะ ทุกคนกลัวผี ผมบอกก็ไม่กลัว เราเป็นพระ ไม่กลัวผี จะนอนอยู่แล้วฮะ ได้ยินเสียงหน้ากุฏิ กึกกึก กึกกึก กึก กึกกึกกึก พระทุกรูปกลัวหมดเลย ผมไม่กลัว ผมเอาไฟฉาย ฉายไป มันต้องพิสูจน์ ให้รู้ อย่าเชื่อที่หูได้ยิน และอย่าไปเชื่อบางสิ่งที่ตาได้เห็น
ที่ได้ยินเสียง กึกกึก กึกกึก กึก ผมเปิดประตูไป ไฟฉาย ฉาย
สุนัขมันคัน มันเอาเท้าเกา แล้วก็… ศอกโดน อ๋อ ก็เลยพิสูจน์ว่า อ้าว นี่มันไม่ใช่ผีเนี่ย
ดังนั้น แล้วเป็นพระจริง ๆ กลัวไหม หลวงพี่กลัวพี่ไหม?
หลวงพี่สมปอง
เจริญพร ในส่วนตัวอาตมาก่อนเลย อดีตเลยนะ อดีตเลย อาตมากลัวผี เป็นคนกลัวผีมาก รู้ได้อย่างไรว่ากลัวผีมาก คือพ่อเสีย ไปบ้านเยี่ยมพ่อกับแม่ แล้วพ่อก็เสีย อาตมาก็ไม่เข้าไปในห้องพ่อเลย จนมีประโยคหนึ่งที่ชาวบ้านเขาพูดมา “ไม่เคารพพระมหาสมปองหรอก ผีพ่อตัวเองยังกลัว”
โห เราเป็นสมมติสงฆ์ ไม่ได้เป็นอรหันต์ ขึ้นเลย ขึ้นเลย เสียฟอร์มความเป็นพระ งั้นเลิกกลัวผีพ่อแล้ว ก็สามารถที่จะนอนห้องพ่อได้ คือไปบ้านจะนอนที่ห้องพ่อ
ถ้ามุมที่ไม่กลัว อยากให้มองอย่างนี้ ผีจะหลอกเรา ได้ 3 สาเหตุ
- เงียบ 2. มืด 3. อยู่คนเดียว
สว่าง ๆ อย่างนี้ผีไม่มา เพราะผีไม่มีรูปร่าง กว่ารวบรวมให้เราได้เห็นนี่ยากมาก สองต้องเงียบ จะมาแอ่วลั่นปั๊ด ลั่นปั๊ด ผีไม่มา สาม ต้องอยู่คนเดียว อยู่หลายคนผีไม่หลอก สังเกตไหม โผล่มาแฮ่ แฮ่ เดี๋ยวตบหัวหลุดเลย ตัดประเด็นที่หนึ่งออกไป ผีไม่หลอก เวลาเปิดไฟ
เขาบอกว่าในความเชื่อ คติชาวพุทธ ผีมาขอส่วนบุญ เพราะกว่าเขากำลังรวบรวมพลัง กว่าจะเป็นรูปร่าง ขอส่วน… เราก็ตกใจสลบไป เขาก็ต้องมานั่งรอเราที่ปลายเตียงอีก นั่งรอ ผมก็ปิดตาอยู่ พอเราฟื้นขึ้นมากำลังจะขอส่วน… วิ่งอีกแล้ว เขาก็ต้องรวบรวมพลังไปดักอีกที ขอส่วน… สลบไปอีกแล้ว
จริง ๆ เขาจะมาขอส่วนบุญ คนมีบุญนะผีถึงได้มาหา คนมีบุญถึงจะได้เห็นผี
หลวงพี่นภันต์
อาตมานี่กลัวนะ กลัวผีมากเลยครับ ขออนุญาตตอบเป็นกลอนละกันนะครับ
ผีที่หนึ่งชอบสุราเป็นอาจิณ ไม่ชอบกินข้าวปลาเป็นอาหาร
ผีที่สองชอบเที่ยวยามวิกาล ไม่รักบ้าน รักพ่อ รักแม่ตน
ผีที่สามชอบเที่ยวดูการละเล่น ไม่ละเว้น บาร์ คลับ ละคร โขน
ผีที่สี่คบคนชั่วมั่วกับโจร หนีไม่พ้นอาญา ตราแผ่่นดิน
ผีที่ห้าชอบม้ากีฬาบัตร สารพัด ถั่วโป โฮโลสิ้น
ผีที่หกเกียจคร้านการทำกิน
มีทั้งสิ้นหกผีอัปรีย์เอย
อัปรีย์แปลว่าไม่เป็นที่รัก ไอ้ผีหกตัวนี้แหละน่ากลัวที่สุด ผีหกตัวนี้ถ้าเข้าสิงสู่ใครเนี่ย ไม่ได้ทำให้ตัวเองเดือดร้อนอย่างเดียว ทำให้ครอบครัวเดือนร้อนด้วย
พระดื่มเหล้าได้ไหม?
โน๊ต เชิญยิ้ม
หลวงพี่นภันต์
พระพุทธเจ้าท่านอนุญาตถ้าเกิดว่าเภสัชมียาต้องมีสุราผสม แต่ต้องไม่มีรสและกลิ่นของน้ำเมา
โน๊ต เชิญยิ้ม
สูงเท่าภาชนะประมาณหนึ่งองคุลีนี่จริงไหมฮะ
หลวงพี่นภันต์
จริง ๆ หนึ่งองคุลีนี่ญาติโยมว่ากันเอง แล้วญาติโยมก็เสริมด้วย งั้นขอฝาบาตรแล้วกัน หนึ่งองคุลี เยอะมาก
หลวงพี่สมปอง
จริง ๆ ถ้าถึงขั้นเมานี่จับสึกได้ไหมครับ ตามหลักวินัยของพระ
หลวงพี่นภันต์
ถ้าจริง ๆ วินัยของพระเนี่ย ดื่มสุรานี่จะเป็นเฉพาะปาจิตตีย์ แต่เป็นโทษที่ โยมโน๊ตบอกว่าโลกวัชชะ เมื่อโลกติเตียน ชาวบ้านเขาก็ไม่เลื่อมใสศรัทธา โดยมากกฎหมายไทยก็บังคับให้สึก
มาถึงคำถามที่ใครหลาย ๆ คน อยากรู้คำตอบกันมากที่สุดคำถามนึงเลยล่ะครับ
ทำบุญล้างบาป ได้หรือไม่?
โน๊ต เชิญยิ้ม
สมมติทำอะไรก็ได้มีบาป ตอนหลังผมมาทำบุญ ทำบุญ ทำบุญเยอะ บุญที่ผมทำเยอะกว่าบาปเนี่ย สามารถมาล้างบาปที่ผมทำได้ไหมฮะ
หลวงพี่สมปอง
ทางพุทธศาสนาเราไม่มีล้างบาปเลยนะฮะ บาปส่วนบาป บุญส่วนบุญเลยนะ
บาปก็เสมือนแบบว่าความเค็ม เหมือนเกลือละกัน บุญก็เปรียบเสมือนน้ำ ถ้าน้ำในตุ่ม น้ำเยอะ ๆ เกลือกำนึงมันก็ไม่มีผลอะไร มันก็ไม่เค็ม แต่ถ้าเกิดว่าเกลือเป็นถังสองถังเลย มันก็จะมีความเค็ม
ความเค็มก็เป็นผลของกรรม ก็อยู่ที่ว่ากรรมดีกรรมชั่วอันไหนจะมากกว่ากัน
ที่จริงพระพุทธศาสนาล้างบาปไม่ได้
ในตุ่มนั้นก็มีเกลืออยู่นะ อยู่ที่ว่าจะมากหรือน้อย ส่งผลให้มีความเค็มไหม ก็ลองให้เราเติมน้ำใส เติมบุญเยอะ ๆ อย่างเงี้ย แต่ว่าล้างบาปไม่ได้
คือถ้าพูดให้เห็นภาพเหมือนกับที่โยมโน๊ตเล่า เรื่องอะไรตลก ๆ ขำ ๆ มา แล้วมีตบ ตบว่า เช่น เมื่อกี้ที่เล่าเรื่องโยมโกรธแล้ว หมามาพระเกรียวอะไรอย่างงี้เป็นต้น ก็ใส่ไปหน่อยว่า เออเนี่ยจะทำบุญนะ รักษาใจให้สงบ อันนี้คือการเติมบุญลงไปในเรื่องที่กำลังเล่า
ซึ่งถ้าทุกครั้งที่เราทำอะไรที่ไม่ดีแล้วรู้ เราก็เพิ่มเติมเรื่องบุญเข้าไป เวลาที่เขาเปรียบเทียบเหมือนกับว่า เวลาใส่เกลือ 1 เม็ดนะครับในโอ่งกับใส่เกลือหนึ่งเม็ดลงในแม่น้ำ มันต่างกันเยอะ
คำถามคือชีวิตเรา เราเป็นโอ่ง หรือเราเป็นแม่น้ำ
โน๊ต เชิญยิ้ม
อย่างนี้ครับหลวงพี่ เวลาเราเล่นมุก หรือเราทำหนัง ทำละคร หรือทำซิทคอมอะไรต่าง ๆ เราสามารถจะพูดหรือจะแตะไปถึงพระสงฆ์องค์เจ้า ได้มากน้อยขนาดไหน อะไรคือควร อะไรคือไม่ควร
อันนี้ผม ผม ปีนี้ผมอายุหกสิบเจ็ดแล้วนะฮะ บางครั้งผมก็ยังไม่รู้ว่าอะไรควรหรือไม่ควร แต่ด้วยจิตใจของตลกทุกคน ไม่ได้ลบหลู่ศาสนานะครับ
ถ้าเกิดตลกอาจจะตัดสินยากเหมือนกัน เนื่องจากว่าบางทีตลกไม่มีเวลาที่จะสรุปใช่ไหม แต่ถ้าทำหนังเนี่ย ถามว่าควรไม่ควร
สังเกตหนังหลวงพี่เท่งเนี่ย ก็จะมีบทสรุปในตัวตลอด แล้วผลตามมายังไงบ้าง เช่น ภาค 1 ใช่ไหม คุณเท่งก็กลายเป็นเหมือน ความงมงายกับบางเรื่องบางราว ความเข้าใจผิดอย่างเงี้ย มันสอดแทรกด้วยกันว่ามันมีเหตุมีผลนะ
ให้ดูว่าบางครั้ง ถ้าเกิดตราบใดที่ไม่ใช่อริยะเนี่ย เราก็มีโอกาสผิดพลาด มีโอกาสอะไรได้
คือเจตนาคุณโน๊ตต้องการสื่ออะไร นั่นแหละบ่งบอกว่าผิดหรือถูก บาปหรือบุญตรงนั้น
โน๊ต เชิญยิ้ม
แล้วผมก็เล่นมุก มันเป็นอะไรที่หมิ่น หมิ่นองค์พระสงฆ์ไหมครับ
อาตมามีสองมุม หนึ่งก็คือในแง่เจตนาเนี่ยเราจะเข้าใจว่าไม่ได้มีอะไร แต่ว่าเวลาเราพูดอะไรเนี่ย มันก็จะมีกลุ่มคนชอบ คนเฉย ๆ และคนไม่ชอบ
อย่างนี้ก็ ถ้าถามก็คือ หนึ่งเราก็หนักแน่น รู้ว่าเรากำลังพูดอะไร สื่อสารอะไร สอง เราก็อาจจะเปิดใจฟังเขาบ้างว่า ใครเขาสะท้อนอะไรมา เราปรับอะไรได้
ก็อย่างเมื่อกี้ที่บอก ถ้าเกิดเราสามารถสร้างบทสรุปอะไรบางอย่าง อย่างน้อยมันเป็นข้อที่น่าดีใจว่าโยมโน๊ต ญาติโยมในวงการได้สนใจเรื่องพระ และทำให้คนสนใจเรื่องพระ
ถ้าเกิดวันหนึ่งมีคน ไม่ว่าทำหนังตลกเกี่ยวกับพระยังไง แต่ไม่มีคนหือ อือ นั่นแสดงว่าพระพุทธศาสนา ลดความสำคัญในสังคมไทยแล้ว ไม่มีใครแคร์
อาไท
แล้วสรุปว่า เล่นตลก บาปหรือไม่บาปครับหลวงพี่
หลวงพี่สมปอง
ที่จริงแล้วอยู่ที่เจตนาเป็นหลักในทางพุทธศาสนา
ถ้าเรามีเจตนาให้คนสนุก มีความสุข แฝงด้วยข้อคิด ก็เป็นบุญ เป็นกุศล เพราะเจตนาเราดี เราไม่ได้เหยียดหยาม ไม่ได้ทำให้คนเสื่อมศรัทธาในพระพุทธศาสนา ในองค์พระ ตรงกันข้ามเราส่งเสริมด้วยซ้ำ บางทีอาจจะมีอะไรที่ต้องคุย ต้องบอกกันบ้าง เราก็รับฟังเปิดใจ แล้วเราก็แก้ไขปรับปรุง
คนไทยเวลามีปัญหาสองข้อ หนึ่งขอโทษ ขอโทษด้วยความจริงใจ ให้อภัยแล้วห้าสิบเปอร์เซ็นต์ ขอโทษครับอันนี้มันเลยไปครับ ดูแล้วมันอ่ะ แล้วผมจะให้มันดูพอดี สองปรับปรุงแก้ไข ถ้าเราเคยคิดไม่ดีเราก็จะคิดดี เคยพูดไม่ดี เราก็จะพูดดี เคยทำไม่ดี เราก็จะทำดี แล้วสุดท้ายคนไทยก็จะให้อภัยร้อยเปอร์เซ็นต์
แต่สุดท้ายถ้าเจตนาเราดี ให้คนมีความสุข ยังไงก็เป็นบุญมากกว่าเป็นบาปอย่างแน่นอน